การขับเคลื่อนกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชน (ดอยสะเก็ด)
แบบจัดเก็บความรู้ในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน
ความรู้ในการปฎิบัติงาน เรื่อง การขับเคลื่อนกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชน
เจ้าของความรู้ชื่อ นางมธุรส วงษ์ต๊ะ
ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอดอยสะเก็ด
วันที่บันทึกความรู้ 19 กรกฎาคม 2553
วัตถุประสงค์ของความรู้ : การขับเคลื่อนกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชน
กระบวนการ/ขั้นตอน/วิธิปฎิบัติ
ในปี พ.ศ. 2548 ข้าพเจ้าได้รับคำสั่งปรับเปลี่ยนสายงานจากธุรการเป็นพัฒนากร และได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบประสานงานตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ ข้าพเจ้าได้ขอพบปะกับอาสาพัฒนาชุมชนในตำบลป่าเมี่ยง ได้พูดคุยสอบถามการทำงานของอาสาพัฒนาชุมชนอย่างเป็นกันเอง และได้รับทราบถึงความรู้สึกที่บ่งบอกถึงความน้อยใจ จากคำพูดที่ว่า พวกเขาเป็นเหมือนเสือกระดาษ ถูกแต่งตั้งขึ้นในคำสั่งแต่ไม่มีบทบาทใด ๆ ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครยอมรับ หากเปรียบเทียบแล้วแตกต่างจาก อสม.
ความรู้สึกที่สัมผัสได้ เขาเหล่านั้นเป็นคนในหมู่บ้าน ที่ล้วนมีจิตอาสา ยังไม่ได้รับการพัฒนาตนเอง ยังไม่ได้รับโอกาสที่จะทำงานอย่างแท้จริง และเขาเหล่านั้นพร้อมที่จะปฏิบัติงานตามนโยบายของกรมการพัฒนาชุมชนเพื่อให้หมู่บ้านของเขาได้รับการพัฒนาอย่างแท้จริง
ข้อมูลต่าง ๆ เป็นจุดประกาย ที่ให้ข้าพเจ้าได้นำมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนงานอาสาพัฒนาชุมชนในระดับตำบล ดังนี้
- มีการประชุมชี้แจงบทบาทหน้าที่ของอาสาพัฒนาชุมชน
- สอดแทรกบทบาทหน้าที่ของอาสาพัฒนาชุมชนในเวทีการ
ประชุมต่าง ๆ ในหมู่บ้าน/ ตำบล เพื่อให้ผู้นำได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ
- ประสานงานกับ อบต.ป่าเมี่ยง ให้เล็งเห็นความสำคัญในบทบาท
ของอาสาพัฒนาชุมชน โดยให้อาสาพัฒนาชุมชนเข้ามามีบทบาทในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูล จปฐ. จนเป็นที่ยอมรับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และได้รับการสนับสนุนเงินอุดหนุนเพื่อใช้ในการพัฒนาศักยภาพอาสาพัฒนาชุมชน
หลังจากนั้นการขับเคลื่อนกิจกรรมของอาสาพัฒนาชุมชนตำบลป่า
เมี่ยง ก็เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลไกตามนโยบายของกรมการพัฒนาชุมชน เช่น การจัดเก็บข้อมูล จปฐ. , การแก้ไขปัญหาความยากจน, การปลูกป่า, การนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอมาปฏิบัติโดยฐานการเรียนรู้ 4 ฐาน
ผลลัพธ์ที่ได้อาสาพัฒนาชุมชน ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง จนเป็นกลุ่มองค์กรที่ได้การยอมรับจากประชาชน/องค์กรต่าง ๆ อาสาพัฒนาชุมชนจำนวน 2 ท่านได้รับการคัดเลือกเป็น สอบต. / สท.ในปัจจุบัน ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำอื่น ๆ เข้ามาเป็นอาสาพัฒนาชุมชน และกลุ่มองค์กรในหมู่บ้าน/ตำบล เช่น เครือข่าย กทบ.ตำบลป่าเมี่ยง ได้พิจารณาสนับสนุนเงินจำนวน 6,000 บาท เพื่อพัฒนางานอาสาพัฒนาชุมชน ในปี 2553 นี้
1. การสื่อความรักความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่มีต่อประชาชนคนไทยทุกคน ให้แก่อาสาพัฒนาชุมชน เป็นสิ่งสำคัญที่จะยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาเหล่านั้นให้มีจิตใจเปี่ยมล้วนด้วย จิตอาสา
2. อาสาพัฒนาชุมชนมีความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวนโยบายของกรมการพัฒนาชุมชน
3. การพัฒนาผู้นำในระดับท้องถิ่น ควรเป็นบทบาทหน้าที่ของกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นส่วนราชการส่วนภูมิภาค เพราะจะนำไปสู่การพัฒนาคนในระดับฐานราก และพัฒนาไปสู่ระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ในปี พ.ศ. 2548 ข้าพเจ้าได้รับคำสั่งปรับเปลี่ยนสายงานจากธุรการเป็นพัฒนากร และได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบประสานงานตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ ข้าพเจ้าได้ขอพบปะกับอาสาพัฒนาชุมชนในตำบลป่าเมี่ยง ได้พูดคุยสอบถามการทำงานของอาสาพัฒนาชุมชนอย่างเป็นกันเอง และได้รับทราบถึงความรู้สึกที่บ่งบอกถึงความน้อยใจ จากคำพูดที่ว่า พวกเขาเป็นเหมือนเสือกระดาษ ถูกแต่งตั้งขึ้นในคำสั่งแต่ไม่มีบทบาทใด ๆ ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครยอมรับ หากเปรียบเทียบแล้วแตกต่างจาก อสม.
ความรู้สึกที่สัมผัสได้ เขาเหล่านั้นเป็นคนในหมู่บ้าน ที่ล้วนมีจิตอาสา ยังไม่ได้รับการพัฒนาตนเอง ยังไม่ได้รับโอกาสที่จะทำงานอย่างแท้จริง และเขาเหล่านั้นพร้อมที่จะปฏิบัติงานตามนโยบายของกรมการพัฒนาชุมชนเพื่อให้หมู่บ้านของเขาได้รับการพัฒนาอย่างแท้จริง
ข้อมูลต่าง ๆ เป็นจุดประกาย ที่ให้ข้าพเจ้าได้นำมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนงานอาสาพัฒนาชุมชนในระดับตำบล ดังนี้
1. มีการประชุมชี้แจงบทบาทหน้าที่ของอาสาพัฒนาชุมชน
2. สอดแทรกบทบาทหน้าที่ของอาสาพัฒนาชุมชนในเวทีการ
ประชุมต่าง ๆ ในหมู่บ้าน/ ตำบล เพื่อให้ผู้นำได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ
3. ประสานงานกับ อบต.ป่าเมี่ยง ให้เล็งเห็นความสำคัญในบทบาท
ของอาสาพัฒนาชุมชน โดยให้อาสาพัฒนาชุมชนเข้ามามีบทบาทในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูล จปฐ. จนเป็นที่ยอมรับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และได้รับการสนับสนุนเงินอุดหนุนเพื่อใช้ในการพัฒนาศักยภาพอาสาพัฒนาชุมชน
หลังจากนั้นการขับเคลื่อนกิจกรรมของอาสาพัฒนาชุมชนตำบลป่า
เมี่ยง ก็เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลไกตามนโยบายของกรมการพัฒนาชุมชน เช่น การจัดเก็บข้อมูล จปฐ. , การแก้ไขปัญหาความยากจน, การปลูกป่า, การนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอมาปฏิบัติโดยฐานการเรียนรู้ 4 ฐาน
ผลลัพธ์ที่ได้อาสาพัฒนาชุมชน ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง จนเป็นกลุ่มองค์กรที่ได้การยอมรับจากประชาชน/องค์กรต่าง ๆ อาสาพัฒนาชุมชนจำนวน 2 ท่านได้รับการคัดเลือกเป็น สอบต. / สท.ในปัจจุบัน ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำอื่น ๆ เข้ามาเป็นอาสาพัฒนาชุมชน และกลุ่มองค์กรในหมู่บ้าน/ตำบล เช่น เครือข่าย กทบ.ตำบลป่าเมี่ยง ได้พิจารณาสนับสนุนเงินจำนวน 6,000 บาท เพื่อพัฒนางานอาสาพัฒนาชุมชน ในปี 2553 นี้
ข้อแนะนำ/ข้อพึงระวัง
1. การสื่อความรักความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่มีต่อประชาชนคนไทยทุกคน ให้แก่อาสาพัฒนาชุมชน เป็นสิ่งสำคัญที่จะยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาเหล่านั้นให้มีจิตใจเปี่ยมล้วนด้วย จิตอาสา
2. อาสาพัฒนาชุมชนมีความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวนโยบายของกรมการพัฒนาชุมชน
3. การพัฒนาผู้นำในระดับท้องถิ่น ควรเป็นบทบาทหน้าที่ของกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นส่วนราชการส่วนภูมิภาค เพราะจะนำไปสู่การพัฒนาคนในระดับฐานราก และพัฒนาไปสู่ระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง