การจัดการความรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านท่ามะขาม ม. 5 ต. สันทราย อ.สารภี จ.เชียงใหม่

By admin, เดือนสิงหาคม 6, 2010

แบบบันทึกองค์ความรู้

ชื่อ – นามสกุล    นางสุพิม   พรหมแก้ว

image002

ตำแหน่ง  นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ

สังกัด  สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสารภี    จังหวัดเชียงใหม่

เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก  087-xxxxxx

ชื่อเรื่อง  การจัดการความรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านท่ามะขาม  ม. 5  ต. สันทราย  อ.สารภี   จ.เชียงใหม่

เนื้อเรื่อง               

                                หมู่บ้านท่ามะขาม  หมู่ที่ 5  ตำบลสันทราย   อำเภอสารภี  จังหวัดเชียงใหม่  เป็นหมู่บ้านที่มีความอุดมสมบูรณ์    ดินดำ   น้ำชุ่ม     เพราะอยู่ติดกับแม่น้ำปิง    อยู่เหนือฝายทดน้ำ   มีลักษณะพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า   มีลำเหมืองผ่านกลางหมู่บ้าน   เป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ   ปี พ.ศ. 2259     โดย เจ้ามหาวงศ์    บุตรของเจ้าเศรษฐีคำฟั่น (เจ้าเมืองเชียงใหม่สมัยนั้น)       การที่เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ทำให้มีการสืบเผ่าพันธุ์ต่อเนื่องกันมาเนินนานเป็นระบบเครือญาติที่เหนียวแน่น ผู้คนมีความรัก สามัคคี  ผ่านกระบวนการเรียนรู้ในการจัดการปัญหาชุมชนมาหลายชั่วอายุคน  จึงเป็นหมู่บ้านที่มีความเข้มแข็งในเรื่องการบริหารจัดการความรู้ชุมชน  ไม่หยุดนิ่ง  พร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ เสมอ  มีการผสมผสานความใหม่เข้ากับภูมิปัญญาดั่งเดิมได้อย่างกลมกลืน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หมู่บ้านท่ามะขาม พัฒนาสู่การเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบของอำเภอสารภี   เพราะชุมชนมีความตระหนักถึงภัยของสารเคมี  ที่มีผลร้ายต่อสุขภาพ  ต้นทุนการผลิตสูง  ผลผลิตต่ำ  ไม่สามารถกำหนดราคาของสินค้าตนเองได้  ต้องขึ้นกับราคาของท้องตลาดหรือพ่อค้าเป็นผู้กำหนด  เกิดปัญหาหนี้สิน    ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน  สภาวะการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์  ทำให้ผู้คนในชุมชนต้องสูญเสียที่ดินทำกินของตนเองให้กับนายทุนเพื่อนำเงินไปชำระหนี้  และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน  เกิดปัญหาขาดที่ดินทำกิน หรือที่ดินทำกินมีไม่เพียงพอ เป็นการลดปัจจัยการผลิตที่สำคัญมากในอาชีพเกษตรกรรม  เพิ่มปัญหาความยากจน  จากปัญหาดังกล่าวทำให้เกษตรกรบางคนในชุมชนปรับเปลี่ยนวิธีการทำเกษตรกรรมจากเดิมปลูกพืชเชิงเดี่ยว(ลำไย)  เป็นการทำเกษตรผสมผสาน ปลูกทุกอย่างที่กิน  กินทุกอย่างที่ปลูก สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตจำหน่ายได้ทุกวัน แทนการทำลำไย ที่ให้ผลผลิตปีละ  1  ครั้ง  และหันมาใช้การทำเกษตรอินทรีย์แทนสารเคมีเพื่อลดต้นทุนการผลิต   ฝึกทำการตลาดด้วยตนเอง  ลดปัญหาการกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง  และเพื่อให้เกิดการสื่อสารโดยตรงกับผู้บริโภค ทำให้รู้ถึงความต้องการของผู้บริโภค  เน้นให้เกิดการพึ่งตนเองให้มากที่สุด

         ในส่วนของผู้นำที่เข้าร่วมโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ” พออยู่ พอกิน “   เกิดความตระหนักถึงการขยายผลความรู้ที่ได้รับจากโครงการสู่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนตื่นตัวยึดแนวทางการดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง  จึงได้จัดประชุมชาวบ้าน และนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯแจ้งให้ชาวบ้านรับรู้ ร่วมปรึกษาหารือแนวทางการขยายผลการพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นผู้บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบที่มีความยั่งยืน   จึงเกิดกิจกรรมหลายอย่างขึ้นในชุมชน   ดังต่อไปนี้

    1. กลุ่มผลิตแชมพูสมุนไพร  สบู่สมุนไพร  เพื่อใช้ในชุมชน  เป็นการลดรายจ่าย     อีกทั้งเป็นการฝึกการบริหารจัดการกลุ่ม   เป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในชุมชน

    2. มีการรวมกลุ่มเพาะเห็ดของกลุ่มแม่บ้าน

    3.  มีการพัฒนาจุดเรียนรู้ชุมชนในแต่ละจุด 

     4. คณะกรรมการแสวงหาภาคีในการพัฒนาเพิ่มมาก

     5.  มีการบริหารจัดการชุมชน โดยแบ่งเป็นคุ้ม  10  คุ้ม

     6. มีการคิดพัฒนาศูนย์เรียนรู้ชุมชน  บรรจุไว้ในแผนชุมชนบ้านท่ามะขาม

     7. ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนามากขึ้น

     8.มีการรวบรวมองค์ความรู้ในชุมชนเป็นเอกสารรูปเล่ม

     9.เกิดแนวคิดในการจัดตั้งธนาคารชุมชนในตำบล

    10.มีการริ่เริมกิจกรรมลดรายจ่ายในงานเลี้ยงโดยการเลี้ยงอาหารเพื่อสุขภาพ(ประกอบอาหารจากพืชผักพื้นบ้าน) 

     11.  มีการทำบัญชีครัวเรือนในหมู่บ้านเพิ่มมากขึ้น  คิดเป็น  80  %  ของครัวเรือนทั้งหมด

     12.  มีการจัดทำแผนชีวิตครัวเรือนทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร   และไม่เป็นลายลักษณ์อักษร   เป็นการแสดงถึงความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต   รู้เท่าทันสถานการณ์   ทำให้การดำเนินชีวิตราบรื่น  ลดปัญหาอุปสรรคในชีวิต   ประสบความสำเร็จมากขึ้น

     13.วางแผนส่งเสริมให้หมู่บ้านท่ามะขามเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตร                                                            

     14. ชุมชนตื่นตัวให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ    มีการออกกำลังกาย  ไม่เผาขยะ    กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย  (กินผักพื้นบ้านมากขึ้น)  หันมาใช้สมุนไพรมากขึ้น

     15. มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมีมากขึ้น  มองเห็นความสำคัญของการทำเกษตรอินทรีย์     การพึ่งพาทางนิเวศน์(การพึ่งพาระหว่างพืชและสัตว์ ) ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติมากขึ้น

     16. ชุมชนมีความตื่นตัว ในการดูแลชุมชนมากขึ้น  เช่น  การดูแลเด็ก  เยาวชน  ผู้สูงอายุ 

      17. ชุมชนเห็นความสำคัญของการมีแผนชุมชนมากขึ้น มีการปรับแผนทุกปีให้เหมาะสม

      19.  ส่งตัวแทนกลุ่มองค์กรในชุมชนเข้าร่วมอบรมการพัฒนาบรรจุภัณฑ์  เพื่อนำความรู้ ประยุกต์กับผลิตภัณฑ์ในชุมชน

      20 . มีการนำความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการกลุ่มองค์กร ประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานกลุ่มในพื้นที่  เช่น  การดำเนินงานกลุ่มเยาวชน  กลุ่มออมทรัพย์  กทบ.   ฯลฯ

      21. มีกิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้นำในชุมชน  เช่น  ส่งผู้นำในหมู่บ้าน  15  คน เข้าร่วมอบรมพัฒนาผู้นำ ที่ศูนย์ศึกษาพัฒนาเขต 5 ฯลฯ

      22. ส่งเสริมการจัดเวทีในพื้นที่ เพื่อสร้างการเรียนรู้แก่คนในชุมชน

      23.มีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานพัฒนาหมู่บ้านโดยคณะกรรมการหมู่บ้าน  เพื่อให้คำแนะนำ  ร่วมแก้ปัญหา และส่งเสริมให้กิจกรรมนั้นประสบผลสำเร็จ

      24. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้ชาวบ้านรู้เท่าทันสถานการณ์ 

      25. สร้างความตระหนักแก่คนในชุมชนในเรื่องการพึ่งตนเอง  ปัญหาหนี้นอกระบบลดลง

       26. ประชาสัมพันธ์การรักษาที่ดินทำกินของตนเอง  และการริ่เริ่มโครงการกองทุนที่ดิน  เพื่อให้ชาวบ้านที่ขาดกรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกิน   ได้มีโอกาส เช่าซื้อที่    เป็นเจ้าของที่ดิน และอนุรักษ์พัฒนาคุณภาพดินให้อุดมสมบูรณ์

                                27. ชาวบ้านเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์แม่น้ำปิง  มีการจัดประเพณีสืบชะตาแม่น้ำปิง  ทุกปีและรักษาคุณภาพของแม่น้ำ

                                28. ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์ปลามากขึ้น

                                29.ชาวบ้านร่วมกันดูแลรักษาสภาพแวดล้อมให้สวยงามมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการประชาสัมพันธ์ของผู้นำชุมชน  และความรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นหมู่บ้านต้นแบบของอำเภอ

บันทึกขุมความรู้

                1. ชุมชนเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาหลายชั่วอายุคน  จะมีการสั่งสมองค์ความรู้ที่หลากหลาย    คนรุ่นหลังต้องถอดองค์ความรู้ดังกล่าว  เพื่อประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพกาลปัจจุบัน

                2. การพัฒนาศักยภาพผู้นำ    การเพิ่มจำนวนผู้นำในชุมชน  เป็นสิ่งสำคัญในงานพัฒนาชุมชน

เพราะในชุมชนมีปัญหา ความต้องการที่หลายหลาก   เมื่อชุมชนมีผู้นำที่มีความเข้มแข็ง จะนำพาชุมชนพัฒนาได้อย่างยั่งยืน

                3. หากชุมชนยึด แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ในการดำเนินชีวิต จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งพึ่งตนเองได้ในทุกสถานการณ์

แก่นความรู้

  1. การวางแผนการดำเนินงาน  การติดตาม  ประเมินผล  แบบมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน
  2. ชุมชนเกิดการยอมรับ ให้ความร่วมมือในการพัฒนาหากเป็นการแก้ไขปัญหา หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงชุมชนของตนเองดีขึ้น
  3. รูปแบบงานพัฒนาชุมชนที่เหมาะสม   ขึ้นอยู่กับสภาพแต่ละพื้นที่

กลยุทธ์ในการทำงาน

  1. การศึกษาชุมชน ค้นหาผู้นำ วิเคราะห์ศักยภาพชุมชน เพื่อการวางแผนการส่งเสริมสนับสนุนให้เหมาะสมกับพื้นที่
  2. ใช้หลักการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน
  3. หลักการประสานงาน  (ประสานภาคี  เครือข่าย  ร่วมส่งเสริมสนับสนุน)
  4. การจัดการความรู้ในชุมชน
  5. การพัฒนาโดยเริ่มต้นจากสภาพที่แท้จริงของหมู่บ้าน
  6. การเชื่อมั่นในศักยภาพของคน คนพัฒนาได้เมื่อมีโอกาส

30 Responses to “การจัดการความรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านท่ามะขาม ม. 5 ต. สันทราย อ.สารภี จ.เชียงใหม่”

  1. clayton พูดว่า:

    fined@freeway.alliances” rel=”nofollow”>.…

    ñïñ çà èíôó….

  2. Chad พูดว่า:

    frowned@josephus.incense” rel=”nofollow”>.…

    благодарю….

  3. alfredo พูดว่า:

    pascal@childish.italian” rel=”nofollow”>.…

    спс за инфу….

  4. Ronnie พูดว่า:

    macaulays@alimony.intima” rel=”nofollow”>.…

    благодарен!!…

  5. Angel พูดว่า:

    farmwifes@leakage.ferreted” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðþ….

  6. Darren พูดว่า:

    hardy@apparition.fruit” rel=”nofollow”>.…

    ñýíêñ çà èíôó!…

  7. Angel พูดว่า:

    sant@knecht.bunched” rel=”nofollow”>.…

    thanks for information!…

  8. willard พูดว่า:

    lai@kunkels.embattled” rel=”nofollow”>.…

    good!…

  9. Jason พูดว่า:

    vilas@repartee.rheinholdts” rel=”nofollow”>.…

    ñïàñèáî çà èíôó!…

  10. claude พูดว่า:

    wilhelm@sprightly.academicianship” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðþ!!…

  11. Isaac พูดว่า:

    whims@prosopopoeia.humidity” rel=”nofollow”>.…

    ñïñ….

  12. Joey พูดว่า:

    ellisons@tore.juras” rel=”nofollow”>.…

    ñïàñèáî!…

  13. Dave พูดว่า:

    fallacy@startups.brilliantly” rel=”nofollow”>.…

    ñïñ….

  14. Ricardo พูดว่า:

    unsuspecting@channing.possible” rel=”nofollow”>.…

    ñýíêñ çà èíôó….

  15. Floyd พูดว่า:

    prefabricated@enquetes.confirming” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðþ….

  16. matt พูดว่า:

    curve@demontez.hose” rel=”nofollow”>.…

    ñýíêñ çà èíôó!…

  17. Jay พูดว่า:

    paintbrush@existed.dusts” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðþ….

  18. rex พูดว่า:

    glare@renal.crusted” rel=”nofollow”>.…

    thanks!…

  19. Walter พูดว่า:

    bonns@recruiting.phosphates” rel=”nofollow”>.…

    ñïàñèáî çà èíôó!!…

  20. christopher พูดว่า:

    thinned@residences.extinguish” rel=”nofollow”>.…

    áëàãîäàðñòâóþ!…

  21. Gerard พูดว่า:

    bites@motor.ax” rel=”nofollow”>.…

    ñïñ!…

  22. ian พูดว่า:

    yonder@genre.unadorned” rel=”nofollow”>.…

    ñïàñèáî çà èíôó….

  23. cory พูดว่า:

    certain@phenothiazine.freddie” rel=”nofollow”>.…

    ñïñ!!…

  24. Alfredo พูดว่า:

    bathed@notice.coachwork” rel=”nofollow”>.…

    ñïñ!…

  25. Christopher พูดว่า:

    stew@sam.piddington” rel=”nofollow”>.…

    ñïàñèáî çà èíôó!…

Leave a Reply

OfficeFolders theme by Themocracy