การจัดการความรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านท่ามะขาม ม. 5 ต. สันทราย อ.สารภี จ.เชียงใหม่
แบบบันทึกองค์ความรู้
ชื่อ – นามสกุล นางสุพิม พรหมแก้ว
ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก 087-xxxxxx
ชื่อเรื่อง การจัดการความรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านท่ามะขาม ม. 5 ต. สันทราย อ.สารภี จ.เชียงใหม่
เนื้อเรื่อง
หมู่บ้านท่ามะขาม หมู่ที่ 5 ตำบลสันทราย อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่มีความอุดมสมบูรณ์ ดินดำ น้ำชุ่ม เพราะอยู่ติดกับแม่น้ำปิง อยู่เหนือฝายทดน้ำ มีลักษณะพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีลำเหมืองผ่านกลางหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2259 โดย เจ้ามหาวงศ์ บุตรของเจ้าเศรษฐีคำฟั่น (เจ้าเมืองเชียงใหม่สมัยนั้น) การที่เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ทำให้มีการสืบเผ่าพันธุ์ต่อเนื่องกันมาเนินนานเป็นระบบเครือญาติที่เหนียวแน่น ผู้คนมีความรัก สามัคคี ผ่านกระบวนการเรียนรู้ในการจัดการปัญหาชุมชนมาหลายชั่วอายุคน จึงเป็นหมู่บ้านที่มีความเข้มแข็งในเรื่องการบริหารจัดการความรู้ชุมชน ไม่หยุดนิ่ง พร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ เสมอ มีการผสมผสานความใหม่เข้ากับภูมิปัญญาดั่งเดิมได้อย่างกลมกลืน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หมู่บ้านท่ามะขาม พัฒนาสู่การเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบของอำเภอสารภี เพราะชุมชนมีความตระหนักถึงภัยของสารเคมี ที่มีผลร้ายต่อสุขภาพ ต้นทุนการผลิตสูง ผลผลิตต่ำ ไม่สามารถกำหนดราคาของสินค้าตนเองได้ ต้องขึ้นกับราคาของท้องตลาดหรือพ่อค้าเป็นผู้กำหนด เกิดปัญหาหนี้สิน ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน สภาวะการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ ทำให้ผู้คนในชุมชนต้องสูญเสียที่ดินทำกินของตนเองให้กับนายทุนเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เกิดปัญหาขาดที่ดินทำกิน หรือที่ดินทำกินมีไม่เพียงพอ เป็นการลดปัจจัยการผลิตที่สำคัญมากในอาชีพเกษตรกรรม เพิ่มปัญหาความยากจน จากปัญหาดังกล่าวทำให้เกษตรกรบางคนในชุมชนปรับเปลี่ยนวิธีการทำเกษตรกรรมจากเดิมปลูกพืชเชิงเดี่ยว(ลำไย) เป็นการทำเกษตรผสมผสาน ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตจำหน่ายได้ทุกวัน แทนการทำลำไย ที่ให้ผลผลิตปีละ 1 ครั้ง และหันมาใช้การทำเกษตรอินทรีย์แทนสารเคมีเพื่อลดต้นทุนการผลิต ฝึกทำการตลาดด้วยตนเอง ลดปัญหาการกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง และเพื่อให้เกิดการสื่อสารโดยตรงกับผู้บริโภค ทำให้รู้ถึงความต้องการของผู้บริโภค เน้นให้เกิดการพึ่งตนเองให้มากที่สุด
ในส่วนของผู้นำที่เข้าร่วมโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ” พออยู่ พอกิน “ เกิดความตระหนักถึงการขยายผลความรู้ที่ได้รับจากโครงการสู่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนตื่นตัวยึดแนวทางการดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้จัดประชุมชาวบ้าน และนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯแจ้งให้ชาวบ้านรับรู้ ร่วมปรึกษาหารือแนวทางการขยายผลการพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นผู้บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบที่มีความยั่งยืน จึงเกิดกิจกรรมหลายอย่างขึ้นในชุมชน ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มผลิตแชมพูสมุนไพร สบู่สมุนไพร เพื่อใช้ในชุมชน เป็นการลดรายจ่าย อีกทั้งเป็นการฝึกการบริหารจัดการกลุ่ม เป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในชุมชน
2. มีการรวมกลุ่มเพาะเห็ดของกลุ่มแม่บ้าน
3. มีการพัฒนาจุดเรียนรู้ชุมชนในแต่ละจุด
4. คณะกรรมการแสวงหาภาคีในการพัฒนาเพิ่มมาก
5. มีการบริหารจัดการชุมชน โดยแบ่งเป็นคุ้ม 10 คุ้ม
6. มีการคิดพัฒนาศูนย์เรียนรู้ชุมชน บรรจุไว้ในแผนชุมชนบ้านท่ามะขาม
7. ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนามากขึ้น
8.มีการรวบรวมองค์ความรู้ในชุมชนเป็นเอกสารรูปเล่ม
9.เกิดแนวคิดในการจัดตั้งธนาคารชุมชนในตำบล
10.มีการริ่เริมกิจกรรมลดรายจ่ายในงานเลี้ยงโดยการเลี้ยงอาหารเพื่อสุขภาพ(ประกอบอาหารจากพืชผักพื้นบ้าน)
11. มีการทำบัญชีครัวเรือนในหมู่บ้านเพิ่มมากขึ้น คิดเป็น 80 % ของครัวเรือนทั้งหมด
12. มีการจัดทำแผนชีวิตครัวเรือนทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร และไม่เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นการแสดงถึงความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต รู้เท่าทันสถานการณ์ ทำให้การดำเนินชีวิตราบรื่น ลดปัญหาอุปสรรคในชีวิต ประสบความสำเร็จมากขึ้น
13.วางแผนส่งเสริมให้หมู่บ้านท่ามะขามเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตร
14. ชุมชนตื่นตัวให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ มีการออกกำลังกาย ไม่เผาขยะ กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย (กินผักพื้นบ้านมากขึ้น) หันมาใช้สมุนไพรมากขึ้น
15. มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมีมากขึ้น มองเห็นความสำคัญของการทำเกษตรอินทรีย์ การพึ่งพาทางนิเวศน์(การพึ่งพาระหว่างพืชและสัตว์ ) ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติมากขึ้น
16. ชุมชนมีความตื่นตัว ในการดูแลชุมชนมากขึ้น เช่น การดูแลเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ
17. ชุมชนเห็นความสำคัญของการมีแผนชุมชนมากขึ้น มีการปรับแผนทุกปีให้เหมาะสม
19. ส่งตัวแทนกลุ่มองค์กรในชุมชนเข้าร่วมอบรมการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อนำความรู้ ประยุกต์กับผลิตภัณฑ์ในชุมชน
20 . มีการนำความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการกลุ่มองค์กร ประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานกลุ่มในพื้นที่ เช่น การดำเนินงานกลุ่มเยาวชน กลุ่มออมทรัพย์ กทบ. ฯลฯ
21. มีกิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้นำในชุมชน เช่น ส่งผู้นำในหมู่บ้าน 15 คน เข้าร่วมอบรมพัฒนาผู้นำ ที่ศูนย์ศึกษาพัฒนาเขต 5 ฯลฯ
22. ส่งเสริมการจัดเวทีในพื้นที่ เพื่อสร้างการเรียนรู้แก่คนในชุมชน
23.มีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานพัฒนาหมู่บ้านโดยคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อให้คำแนะนำ ร่วมแก้ปัญหา และส่งเสริมให้กิจกรรมนั้นประสบผลสำเร็จ
24. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้ชาวบ้านรู้เท่าทันสถานการณ์
25. สร้างความตระหนักแก่คนในชุมชนในเรื่องการพึ่งตนเอง ปัญหาหนี้นอกระบบลดลง
26. ประชาสัมพันธ์การรักษาที่ดินทำกินของตนเอง และการริ่เริ่มโครงการกองทุนที่ดิน เพื่อให้ชาวบ้านที่ขาดกรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ได้มีโอกาส เช่าซื้อที่ เป็นเจ้าของที่ดิน และอนุรักษ์พัฒนาคุณภาพดินให้อุดมสมบูรณ์
27. ชาวบ้านเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์แม่น้ำปิง มีการจัดประเพณีสืบชะตาแม่น้ำปิง ทุกปีและรักษาคุณภาพของแม่น้ำ
28. ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์ปลามากขึ้น
29.ชาวบ้านร่วมกันดูแลรักษาสภาพแวดล้อมให้สวยงามมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการประชาสัมพันธ์ของผู้นำชุมชน และความรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นหมู่บ้านต้นแบบของอำเภอ
บันทึกขุมความรู้
1. ชุมชนเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาหลายชั่วอายุคน จะมีการสั่งสมองค์ความรู้ที่หลากหลาย คนรุ่นหลังต้องถอดองค์ความรู้ดังกล่าว เพื่อประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพกาลปัจจุบัน
2. การพัฒนาศักยภาพผู้นำ การเพิ่มจำนวนผู้นำในชุมชน เป็นสิ่งสำคัญในงานพัฒนาชุมชน
เพราะในชุมชนมีปัญหา ความต้องการที่หลายหลาก เมื่อชุมชนมีผู้นำที่มีความเข้มแข็ง จะนำพาชุมชนพัฒนาได้อย่างยั่งยืน
3. หากชุมชนยึด แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ในการดำเนินชีวิต จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งพึ่งตนเองได้ในทุกสถานการณ์
แก่นความรู้
- การวางแผนการดำเนินงาน การติดตาม ประเมินผล แบบมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน
- ชุมชนเกิดการยอมรับ ให้ความร่วมมือในการพัฒนาหากเป็นการแก้ไขปัญหา หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงชุมชนของตนเองดีขึ้น
- รูปแบบงานพัฒนาชุมชนที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับสภาพแต่ละพื้นที่
กลยุทธ์ในการทำงาน
- การศึกษาชุมชน ค้นหาผู้นำ วิเคราะห์ศักยภาพชุมชน เพื่อการวางแผนการส่งเสริมสนับสนุนให้เหมาะสมกับพื้นที่
- ใช้หลักการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน
- หลักการประสานงาน (ประสานภาคี เครือข่าย ร่วมส่งเสริมสนับสนุน)
- การจัดการความรู้ในชุมชน
- การพัฒนาโดยเริ่มต้นจากสภาพที่แท้จริงของหมู่บ้าน
- การเชื่อมั่นในศักยภาพของคน คนพัฒนาได้เมื่อมีโอกาส
fined@freeway.alliances” rel=”nofollow”>.…
ñïñ çà èíôó….
frowned@josephus.incense” rel=”nofollow”>.…
благодарю….
pascal@childish.italian” rel=”nofollow”>.…
спс за инфу….
invitations@roving.preponderating” rel=”nofollow”>.…
thank you….
macaulays@alimony.intima” rel=”nofollow”>.…
благодарен!!…
merry@weigle.patrolman” rel=”nofollow”>.…
thanks!…
farmwifes@leakage.ferreted” rel=”nofollow”>.…
áëàãîäàðþ….
viscount@installment.zodiacal” rel=”nofollow”>.…
ñïñ!!…
hardy@apparition.fruit” rel=”nofollow”>.…
ñýíêñ çà èíôó!…
sant@knecht.bunched” rel=”nofollow”>.…
thanks for information!…
informing@bright.arbitrate” rel=”nofollow”>.…
ñïñ!…
lai@kunkels.embattled” rel=”nofollow”>.…
good!…
abroad@underbracing.fragment” rel=”nofollow”>.…
good!…
vilas@repartee.rheinholdts” rel=”nofollow”>.…
ñïàñèáî çà èíôó!…
wilhelm@sprightly.academicianship” rel=”nofollow”>.…
áëàãîäàðþ!!…
whims@prosopopoeia.humidity” rel=”nofollow”>.…
ñïñ….
ellisons@tore.juras” rel=”nofollow”>.…
ñïàñèáî!…
fallacy@startups.brilliantly” rel=”nofollow”>.…
ñïñ….
unsuspecting@channing.possible” rel=”nofollow”>.…
ñýíêñ çà èíôó….
prefabricated@enquetes.confirming” rel=”nofollow”>.…
áëàãîäàðþ….
curve@demontez.hose” rel=”nofollow”>.…
ñýíêñ çà èíôó!…
paintbrush@existed.dusts” rel=”nofollow”>.…
áëàãîäàðþ….
glare@renal.crusted” rel=”nofollow”>.…
thanks!…
bonns@recruiting.phosphates” rel=”nofollow”>.…
ñïàñèáî çà èíôó!!…
thinned@residences.extinguish” rel=”nofollow”>.…
áëàãîäàðñòâóþ!…
bites@motor.ax” rel=”nofollow”>.…
ñïñ!…
yonder@genre.unadorned” rel=”nofollow”>.…
ñïàñèáî çà èíôó….
certain@phenothiazine.freddie” rel=”nofollow”>.…
ñïñ!!…
bathed@notice.coachwork” rel=”nofollow”>.…
ñïñ!…
stew@sam.piddington” rel=”nofollow”>.…
ñïàñèáî çà èíôó!…